Sunday, January 29, 2012

เมื่อโรงพักใช้ Facebook นั่นก็คืออีกส่วนหนึ่งของ "อนาคตของข่าว"


ไม่ใช่แค่คนข่าวที่ต้องปรับตัวให้เข้ายุคดิจิตัล, ตำรวจไทยก็เริ่มเข้ามาใช้ social media ในการสร้าง "ชุมชนข่าว" ที่จะสอดประสานกับความต้องการของคนในเมืองหลวงที่ต้องการร่วมในการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมอย่างคึกคักแน่นอน

สน. หัวหมากเป็นหน่วยงานตำรวจแห่งแรก ๆ ที่เปิด Facebook เพื่อให้เป็นแหล่งรายงาน, แจ้ง, และรับคำร้องเรียนจากประชาชนเพื่อช่วยในการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างฉับพลันทันการ อีกทั้งยังเป็นแหล่งข่าวสารที่ชุมชนข่าวสามารถนำมาแลกเปลี่ยนกันได้อย่างทันท่วงทีและกว้างไกล

พื้นที่ขอบเขตกรดูแลรักษาความสงบของ สน. หัวหมากมีประมาณ 18 ตารางกิโลเมตร ประชาชนกรตามทะเบียนราษฎร์ 8 หมื่นคน แต่ประชากรแฝงอยู่ไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน มีสถิติคดีเกี่ยวกับทรัพย์และทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นบ่อยกว่าพื้นที่อื่น ๆ พอสมควร

พ.ต.อ. สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ผู้กำกับ สน. หัวหมากบอก "คม ชัด ลึก" ว่าได้เปิดโครงการ "โซเชียลเน็ตเวิร์กลาดอาชญากรรมอย่างจริงจังต่อเนื่อง" โดยได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัย Abac จัดจ้างเจ้าหน้าที่สามคนมาสับเปลี่ยนดูแลระบบ social network ตลอด 24 ชั่วโมง

ตั้งแต่เปิดเฟซบุ๊คมา ประชาชนในพื้นที่หัวหมากหลายพันรายได้เข้ามาแจ้งข่าวสารและเบาะแสต่าง ๆ ตลอดเวลาสามเดือนตั้งแต่เปิดบริการมา มีส่วนทำให้ปัญหาอาชญกรรมของ สน. หัวหมากลดลงเพราะมีการแจ้งข่าวคราวของสังคมออนไลน์กันเช่นการซื้อขายยาเสพติดในพื้นที่มีสถิติการจับกุมเพิ่มขึ้นเท่าตัว

นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการใช้ "เครือข่ายสังคมออนไลน์" สำหรับหน่วยราชการที่จำเป็นต้องใช้ crowdsourcing หรือ "แหล่งข่าวฝูงชน" เป็นหลักของการร่วมกันป้องกันและปราบปรามปัญหาของสังคมในทุก ๆ ด้าน

คนข่าวจะต้องรู้จักสร้างเครือข่ายและชุมชนข่าวที่โยงใยกับหน่วยทางการโดยเฉพาะที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความเป็นไปของวิถีชีวิตประจำวันของประชาชนเช่นโรงพัก,ที่ว่าการอำเภอ, และหน่วยราชการทุกแห่ง

และนี่คือส่วนหนึ่งของ "อนาคตของข่าว" อย่างน่าตื่นตาตื่นใจยิ่ง

No comments: