Saturday, December 10, 2011

Newsmotion...ผสานความฉับพลันและต่อเนื่องของข่าว


กลุ่มคนข่าวที่รวมตัวกันเพื่อประสานความพยายามในการทำข่าวระหว่างประเทศที่ร้อนแรงให้สอดประสานระหว่าง "ศิลป์กับเครือข่ายข่าวและนักข่าวอาชีพ" เพื่อให้เกิดผลงานที่มีคุณภาพระดับสูงในยุคดิจิตัลเรียกตัวเองว่า Newsmotion.org

การรวมตัวของคนข่าวเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการรายงานข่าวการปฏิวัติของอีจิปย์ในปีนี้

ประเด็นที่ท้าทายคนทำข่าวระหว่างประเทศที่ระเบิดขึ้นมาต่อหน้าต่อตาเช่นการลุกฮือของประชาชนในโลกอาหรับในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาคือ...จะผสมผสานความเร็วกับความลึกอย่างไร? จะรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันและสามารถทำให้เรื่องราวนั้นอยู่ในความสนใจของทั้งคนทำข่าวและผู้บริโภคข่าวอย่างไร?

หรืออย่างที่เขาตั้งคำถามกับตัวเองว่า "The moment versus the long run."

คนข่าวกลุ่มนี้จึงรวมตัวกันเพื่อให้ "ความฉับพลัน" กับ "ความต่อเนื่อง" (immediacy and continuity) เป็นเป้าหมายของการทำงานให้บรรลุภารกิจของคนข่าวมืออาชีพ

โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษให้กับประเด็นความเป็นธรรมในสังคมและสิทธิมนุษยชน และจับหัวข้อข่าวที่เกี่ยวกับการฆ่าหมู่, เศรษฐกิจตลาดมืด,หรือแม้แต่เรื่องการมีน้ำดื่มน้ำใช้เพียงพอสำหรับชาวบ้านในแถบกันดารอย่างไรหรือไม่

เรียกว่าจะให้ความสนใจกับทั้งเรื่องใหญ่และเรื่องเล็กที่อยู่ใกล้ตัวมนุษย์ทุกชุมชน

คนข่าวกลุ่มนี้ล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านข่าวและวิเคราะห์ความเป็นไปด้านสื่อ และหลายคนได้รับรางวัลด้านการเจาะข่าวที่โดดเด่นมาแล้ว

ไม่ว่าจะเป็น Julian Rubinstein ซึ่งเป็นทั้งนักข่าว, นักเขียน, โปรดิวเซอร์,และอาจารย์
หรือ Elizabeth Rubin นักข่าวสงคราม
หรือ Natalie Jeremijenko ศิลปิน, วิศวกร, อาจารย์มหาวิทยาลัย และคนอื่น ๆ
รวมถึงที่ปรึกษาโครงการเปิดเว็บไซท์นี้เช่น Todd Gitlin กับ Dale Maharidge ซึ่งเป็นทั้งคนข่าวและอาจารย์ด้านสื่อสารมวลชนอย่างโชกโชนมาแล้วทั้งสิ้น

หลักการทำงานที่ผมคิดว่าสะท้อนแนวทางของ "อนาคตแห่งข่าว" จริง ๆ คือการประกาศว่าพวกเขาจะผลักดันให้แวดวงทำข่าวระหว่างประเทศเป็นเรื่องของการ "เล่าเรื่องที่มีคุณภาพและเน้นเรื่องราวที่มีความสำคัญ"

การรวมตัวเพื่อยกระดับของการรายงานข่าวระหว่างประเทศมีความสำคัญมากขึ้นทุกวันนี้เพราะสื่อสำคัญ ๆ ในโลกตะวันตกที่ได้รับแรงกดดันจากรายได้โฆษณาที่หดหายได้เริ่มลดจำนวนนักข่าวต่างประเทศลงอย่างต่อเนื่อง จนสร้างความวิตกว่าคุณภาพของข่าวจากทั่วทุกมุมโลกนั้นจะลดน้อยถอยลงทั้งในแง่คุณภาพและปริมาณ

บรรดาคนข่าวและนักสอนหนังสือด้านนี้จึงเห็นความสำคัญในอันที่จะรวมตัวกันเพื่อยกระดับการทำข่าวในประชาคมโลกไม่ให้หล่นหายไปจากความสนใจของชาวโลก

ยิ่งเกิดความเปลี่ยนแปลงรุนแรงและกว้างขวางในทุกมุมของโลกเช่นนี้ ก็ยิ่งจำเป็นจะต้องปรับมาตรฐานกันตลอดเวลา

เพื่อจับ "สัญญาณ" จาก "เสียงโหวกเหวก" ให้ชัดเจนและแจ่มแจ้งสำหรับผู้บริโภคข่าวที่วันนี้มีปริมาณของข่าวที่ไหลเทอย่างเอ่อท่วม แต่ขาดการวิเคราะห์และตีความหลากหลายรอบด้านอย่างน่ากลัวยิ่ง

No comments: