ถ้าใครมาสมัครงานห้องข่าว, แทนที่จะอ่านใบสมัครและข้ออ้างอิงถุงวุฒิการศึกษากับประสบการณ์, ผมจะเข้าไปตรวจดู "digital profile" ของเขาหรือของเธอเป็นสำคัญ
เพราะหากผู้สนใจจะมีอาชีพทางด้านสื่อสารมวลชนยุคนี้ไม่มีความเคลื่อนไหวที่คึกคักในโลก social media ก็ย่อมไม่ใช่บุคคลที่น่าสนใจสำหรับผม เพราะใครคนนั้นอาจจะยังอยู่ในโลกของสื่ออดีต และไม่พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนตนเองตามยุคสมัยที่เรียกร้องต้องการให้ทุกคนที่ทำสื่อของปรับตัวเพื่อทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์
เข้าไปตรวจดูทวิตเตอร์และเฟสบุ๊คของผู้สนใจจะมาร่วมงานแล้ว ก็ต้องเช็คลงไปในรายละเอียดว่าเขาหรือเธอทวิตบ่อยแค่ไหน โพสต์ข้อความหรือรูปในเฟซบุ๊คว่าอย่างไรบ้าง
และเพราะการเขียนข้อความในโซเชียลมีเดียมักจะเป็นไปในลักษณะ "ดิบ ๆ" จึงพอจะจับได้ว่าคน ๆ นั้นมีความสามารถในการเขียนหนังสือและสื่อสารด้วยภาษาที่ตรงกับความต้องการของผมหรือไม่
"บุคลิก" ของคนสะท้อนในโลกโซเชียลมีเดียได้ไม่น้อย เพราะทุกความเคลื่อนไหวของคนที่เข้าไปในชุมชนของโซเชียลมีเดียคือส่วนปลีกย่อยของวิธีคิดและวิถีปฏิบัติของคน ๆ นั้นที่หากรวมกันแล้วก็จะเห็นภาพรวมของบุคลิกของคนนั้นอย่างชัดเจนพอสมควร
อีกหน่อย ใครสมัครงานกองบรรณาธิการเครือเนชั่นก็เขียนข้อความในทวิตเตอร์ และส่งคลิบวีดีโอที่อัดและตัดต่อด้วยตนเอง ก็น่าจะตัดสินได้ว่าเราต้องการเขาหรือเธอคนนั้นมาร่วมงานหรือไม่
เพราะเราคงไม่ต้องการให้คนมาทำงานในฝ่ายข่าวต้องเรียนรู้เรื่องโซเชียลมีเดียตั้งแต่ ก. ไก่ ข. ไข่ ณ วันแรกของการเข้าทำงาน
คนข่าวยุคนี้กระโดดร่มจากท้องฟ้าลงถึงพื้นก็ต้องวิ่งได้เลย!
No comments:
Post a Comment