Wednesday, April 18, 2012

ข่าวชั้นเทพทำผ่านแพลตฟอร์มใด...ไม่สำคัญ


นักข่าวสายทหารของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ Huffington Post ชื่อเดวิด วู้ดคนนี้บอกว่าตื่นเต้นมากที่ได้รางวัล Pulitzer จากผลงานข่าวเจาะเกี่ยวกับชีวิตทหารที่กลับจากสมรภูมิอัฟกานิสาถนและอิรักพร้อมด้วยความบาดเจ็บที่ยากจะเยียวยาโดยเฉพาะทางด้านจิตใจ

เขาได้รางวัลสุดยอดการทำข่าวประจำปีประเภท "national reporting" อย่างที่เขาไม่เคยคาดหมายมาก่อน

คณะกรรมการรางวัลพูลิซเซอร์ได้ยอมรับว่าสื่อออนไลน์ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าสื่อดั้งเดิมในการทำหน้าที่เป็นสื่อมวลชนเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้นนักข่าวไม่ว่าจะทำหน้าที่ขุดคุ้ย, เจาะหาความจริงเพื่อประชาชนผ่านแพลตฟอร์มใดกำลังได้รับการยอมรับในฐานะ "มืออาชีพ"ได้เช่นกัน

อย่างที่นายเดวิด วู้ดพูดไว้อย่างน่าฟังว่า

"การทำข่าวชั้นเทพนั้น คุณทำผ่านสื่อใดหรือแพลตฟอร์มใด ๆ ได้ทั้งสิ้น" (You can do great journalism from any platform."

หัวใจของคนข่าวที่มีความสามารถ และสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคมนั้นย่อมมี "กลยุทธ" ในการทำงานไม่ต่างกัน นั่นคือการมีความเป็นอิสระ, การกล้านำความจริงมาเปิดเผย, การตรวจสอบข่าวสารและข้อมูลอย่างรอบด้าน, การไร้อคติและปราศจากผลประโยชน์ทับซ้อน,
และทุ่มเทอดทนกับหน้าที่ของตน

เขาบอกว่าหลักการทำงานในการเจาะข่าวของเขาคือ "Think about your subject, ask good questons, be a continuously a good listener and go deep."

ชัด ๆ ง่าย ๆ ก็คือขอให้คิดใคร่ครวญเกี่ยวกับหัวเรื่องที่เกาะติดอย่างทุ่มเทตลอดเวล ตั้งคำถามที่ดี (แปลว่าเจาะถึงหัวใจของเรื่อง), เป็นผู้ฟังที่ดีอย่างต่อเนื่องและที่สำคัญที่สุดคือการลงลึก

รายงานต่อเนื่องภายใต้หัวข้อ "Beyond the Battlefield" นั้น เขาใช้เวลาสืบค้นหาข้อมูลอย่างละเอียดรอบด้าน 8 เดือนซึ่งแปลว่าคนเป็นบรรณาธิการจะต้องเห็นความสำคัญของการทำข่าวสืบสวนสอบสวนมากพอที่จะอนุญาตให้คนข่าวคนใดคนหนึ่งใช้เวลาเกาะติดประเด็นนั้น ๆ อย่างยาวนานและต่อเนื่องเพียงพอที่จะทำหน้าที่ของตนได้อย่างได้มาตรฐานของวิชาชีพนี้

เดวิดบอกว่าเขาติดตามสัมภาษณ์ทหารที่บาดเจ็บจากสนามรบอัฟกานิสถานและอิรักจำนวนมากมาย และไม่ได้สนใจเพียงว่ารอดตายมาได้อย่างไร หากแต่ต้องการจะรู้ว่า "ชีวิต" จริง ๆ ของพวกเขามีมิติอะไรที่คนทั่วไปมักมองไม่เห็นหรือมองข้ามไปจากรายงานข่าวกระแสหลักตามปกติ

ตอนเริ่มต้น, เดวิดยอมรับเหมือนนักข่าวทั่วไปมีความหวาดหวั่นว่าทหารบาดเจ็บจากสงครามจะยอมพูดกับนักข่าวหรือ? บางคนเสียแขนเสียขาจากสนามรบ, นักข่าวที่ดีจะเข้าไปชวนสนทนาได้อย่างไร? จะมิเป็นการเข้าไปล่วงล้ำสิทธิส่วนบุคคลหรือ?

แต่เมื่อลงมือทำ, เขาก็พบว่าทหารหาญเหล่านี้มีความพร้อมที่จะเล่าเรื่องชีวิตและความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับสงคราม, ชีวิตกลางสนามรบ, ชีวิตส่วนตัว, และชีวิตหลังจากหมดหน้าที่การสู้รบ

กลายเป็นการรายงานข่าวที่ตรึงให้คนอ่านติดตามอย่างสนอกสนใจ และมีผลต่อการวางนโยบายของรัฐบาลต่อทหารผ่านศึก และสร้างความเข้าใจระหว่างคนอเมริกันกับทหารอเมริกันทั่วไปอย่างน่าสนใจยิ่ง

ตอกย้ำว่างานข่าวชั้นเลิศนั้นไม่ว่าจะผ่านสื่อใด, แพลตไหนแบบใด, ก็คือข่าวชั้นเลิศที่ประชาชนและผู้บริโภคข่าวต้องการและถามหาอย่างไม่มีวันจืดจางแน่นนอน

No comments: